คำกริยา (Verbs) เป็นคำที่ใช้บอกการกระทำ (action) หรือความมีอยู่ เป็นอยู่ (being) หรือ สภาวะความเป็นอยู่ (state of being) โดยหากทำการจำแนกประเภทของกริยาอาจมีการแบ่งได้หลายวิธี โดยคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เป็นหลัก เช่น
1. แบ่งตามหน้าที่โดยยึดตามกรรม (Object) เป็นเกณฑ์สามารถแบ่งคำกริยาได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.1. Transitive Verbs (สกรรมกริยา) คือ คำกริยาที่ต้องมีกรรมมารับ ไม่สามารถใช้เดี่ยว ๆ ได้ เช่น
He bought a book. (a book เป็นกรรม)
1.2. Intransitive Verbs (อกรรมกริยา) คือ คำกริยาที่ไม่ต้องมีกรรมมารับ เช่น
He came late.
2. แบ่งตามหน้าที่ของกริยาในประโยค สามารถแบ่งได้ 2 ประเภทดังนี้
2.1. Main Verbs (คำกริยาหลัก) เป็นคำกริยาที่ทำหน้าที่ได้อย่างอิสระในประโยค เช่น
He went to Australia last year.
2.2. Auxiliary Verbs (คำกริยาช่วย) ทำหน้าที่ช่วยคำกริยาหลัก เช่น
He has gone to Australia.
3. แบ่งตามหน้าที่เป็นคำกริยาแท้ ( Finite Verbs) และกริยาไม่แท้ ( Non-finite Verbs)
3.1. Finite Verbs (คำกริยาแท้) ทำหน้าที่แสดงกริยาอาการที่แท้จริงของประธานในประโยคมีการเปลี่ยนรูปไปตาม Subject , Tense, Voice และ Mood เช่น
Subject: I go to school every day.
He goes to school every day.
They go to school every day.
Tense: He goes to school every day.
He went to school yesterday.
He's going to school tomorrow.
Voice: Someone killed the snake. (Active)
The snake was killed . (Passive)
Mood: I recommend that he see a doctor. (ไม่ใช่ he sees)
If I were you, I would not do it. (ไม่ใช่ I was)
3.2. Non-finite Verbs (คำกริยาไม่แท้ )หรือ Verbal เป็นคำที่มีรูปจากคำกริยาแต่ไม่ได้ทำหน้าที่คำกริยาแท้ มี 3 รูปคือ
a. Infinitives เป็นคำกริยาที่อยู่ในรูปกริยาช่องที่ 1 นำหน้าด้วย to ทำหน้าที่ noun , adjective และ adverb
He lacked the strength to resist. (to resist ทำหน้าที่ adjective)
We must study to learn. (to learn ทำหน้าที่ adverb)
b. Gerunds เป็นคำกริยาเติม -ing ทำหน้าที่เป็นคำนาม (noun) เช่น
They do not appreciate my singing. (singing เป็นคำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรม)
I like swimming. (swimming เป็นกรรมของ like)
c. Participles คำกริยาที่เติม -ing หรือ กริยาช่องที่ 3 ที่ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ ( Adjective ) มี 2 รูปแบบคือ
* Present Participles เป็นคำกริยาที่เติม ing เช่น
The crying baby had a wet diaper. (crying เป็นคำคุณศัพท์ขยาย baby)
* Past Participles เป็นคำกริยาช่องที่3 เช่น
The broken bottle is on the floor.
4. แบ่งตามโครงสร้างโดยยึดการเปลี่ยนรูปของคำ ( conjugation ) ได้แก่
4.1. Regular Verbs (คำกริยาปกติ) เป็นคำกริยาที่เติม ed เมื่อเป็น past และ past participle เช่น
walk walked walked
stop stopped stopped
work worked worked
4.2. Irregular Verbs (คำกริยาอปกติ) เป็นคำกริยาที่มีรูป past และ past participle ต่างไปจากรูปเดิมหรือคงรูปเดิม เช่น
send sent sent
go went gone
see saw seen
VERBS
Monday, November 16, 2009
Labels:
english verb,
english verbs,
verb,
verbs,
กริยา,
กริยาภาษาอังกฤษ,
คำกริยา
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment