TELEPHONE CONVERSATION

Tuesday, February 23, 2010

การรับโทรศัพท์ เป็นภาษาอังกฤษ


ตัวอย่างบทสนทนาสำหรับฝ่ายรับโทรศัพท์


การทักทายของฝ่ายรับโทรศัพท์

- Good morning, Thai Oil refinery, Somsri speaking.

- Hello, (this is) Thai Oil refinery. May I help you?


การสอบถามผู้ที่โทรศัพท์มาว่าต้องการติดต่อใคร

- Who would you like to speak to?

- Who are you calling for?


การสอบถามชื่อของผู้ที่โทรศัพท์มา

- May I ask who is calling, please?

- May I have your name, please?

- Who is calling, please?


เมื่อโอนสายไปให้ผู้อื่น

- I’ll put you through to Mr. John. ฉันจะต่อสายคุณไปยังคุณจอห์น

- I’ll connect you to Mr. John. ฉันจะต่อสายคุณไปยังคุณจอห์น

- I’ll put Somsri on the line. ฉันจะต่อถึงคุณสมศรีซึ่งกำลังรออยู่ในสาย


บอกให้รอสาย

- Just a moment, please.

- Just a second, please.

- Hold on, please.

- Hold the line, please.

- Could you wait for just one moment, please?

- One moment please, I’ll see if Mr. John is available. โปรดรอสักครู่ ฉันจะดูให้ว่าคุณจอห์นอยู่หรือเปล่า?


เมื่อคนรับสายไม่อยู่ ขอให้โทรกลับมาใหม่วันหลัง

- I’m sorry. Mr. John is in the meeting. ขอโทษ คุณจอห์นกำลังประชุมอยู่

- I’m sorry. There’s no reply from Mr. John. ขอโทษ ไม่มีเสียงตอบรับจากคุณจอห์น

- Thank you for waiting. I’m afraid Mr. John is not in at the moment. ขอบคุณที่รอสาย แต่ตอนนี้คุณจอห์นไม่อยู่

- Could you call back later in the day? กรุณาโทรกลับมาใหม่

- He/She is not available at the moment. ตอนนี้เขา/เธอไม่อยู่

- His/Her line is busy right now. ตอนนี้สายของเขา/เธอไม่ว่าง

- He/She is on another line right now. ตอนนี้เขา/เธอกำลังติดอีกสายหนึ่งอยู่

- He/She is on the phone at the moment. ตอนนี้เขา/เธอกำลังใช้สายอยู่

- Can he/she call you back when he/she gets in? จะให้เขา/เธอโทรกลับไป เมื่อเขา/เธอกลับมาไหม?

ขอให้เขาฝากข้อความไว้

- Can I take a message? ให้ฉันรับข้อความไว้ได้ไหม?

- Would you like to leave a message? คุณต้องการฝากข้อความไว้ไหม?

- Can I give him/her a message? ให้ฉันรับข้อความไว้สำหรับเขา/เธอไหม?

- I’ll tell Mr. John that you called. ผมจะบอกคุณจอห์นให้ว่าคุณโทรมา

- I’ll make sure Mr. John rings you as soon as possible. ฉันจะบอกให้คุณจอห์นโทรกลับหาคุณให้เร็วที่สุด

- At what number can you be reached? ขอหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อคุณกลับได้

เมื่อมีปัญหา

- Could you speak up, please? กรุณาพูดดังขึ้นสักหน่อย

- I’m sorry, I don’t understand. ขอโทษด้วย ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด

- Sorry, I didn’t catch that. Could you speak more slowly, please? ขอโทษ ฉันฟังไม่ทัน กรุณาพูดช้าลงหน่อย

- I cannot hear you very well. ฉันไม่ค่อยได้ยินที่คุณพูดเลย

- You must have dialed the wrong number. คุณคงโทรมาผิดเบอร์

- Could you spell that please? กรุณาสะกดคำด้วย



ตัวอย่างบทสนทนาสำหรับฝ่ายโทรศัพท์ไปหาคนอื่น

ทักทาย/ขอสายคุยกับคนที่ต้องการ

- Good afternoon, this is Somsri speaking. I’d like to talk/speak to John.

- May/Can I speak to John?

- Could you put me through to Mr. John, please? กรุณาต่อสายถึงคุณจอห์นให้หน่อย

- Hi, I’m trying to reach Mr. John. ฉันพยายามติดต่อคุณจอห์น



ขอฝากข้อความถึงคนที่ไม่อยู่

- Could you please take a message for me?

- Could you ask him/her to call me back?

- May I leave a message?

- Please tell him/her I called. กรุณาบอกเขา/เธอว่าฉันโทรมา

โทรกลับไปหาคนที่เคยโทรมาหาเรา

- I’m sorry I missed your call this morning. ขอโทษด้วยที่ฉันไม่ได้รับโทรศัพท์คุณเมื่อเช้านี้

- I’m returning your call from this morning. ฉันโทรกลับมา (เพราะคุณโทรมาหาฉันเมื่อเช้านี้)

- This is John, returning your call from this morning.

- I heard you called me. ฉันทราบมาว่าคุณโทรหาฉัน

เมื่อมีปัญหา

- I’ve tried to get through several times, but it’s always engaged/busy. ฉันพยายามต่อโทรศัพท์อยู่หลายครั้งแต่สายไม่ว่างเลย


References

1. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=krufiat&month=03-2008&date=06&group=3&gblog=8

2. http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=blogangel&date=04-10-2008&group=11&gblog=15

TELEPHONE TIPS

Telephone Tips

ภาษาอังกฤษในการพูดโทรศัพท์ที่คุณควรรู้ ภาษาอังกฤษในการพูดโทรศัพท์ที่คุณควรรู้ คนที่เรียนภาษาอังกฤษส่วนใหญ่รู้สึกว่าการพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์นั้นไม่ง่ายเท่าไหร่เลย แต่ถ้าหากว่าคุณเดินทางไปต่างประเทศหรือทำงานให้กับบริษัทต่างชาติ การพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์เป็นสิ่งจำเป็นที่คุณต้องทำได้ แล้วคุณจะจัดการปัญหานี้อย่างไรล่ะ เตรียมพร้อมสำหรับการพูดโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษด้วยเทคนิคและประโยคต่อไปนี้



Introductions

เริ่มการสนทนาทางโทรศัพท์ด้วยการแนะนำตัวเอง เช่น"Hello, this is Peter Jones. ถ้าคุณรับโทรศัพท์แล้วผู้ที่โทรเข้าไม่ได้แนะนำตัวเขา คุณก็ถามได้ว่า"May I ask who's calling, please?"

Asking for someone / Making a request

ถ้าคุณโทรศัพท์และต้องการเจาะจงคนที่อยากพูดด้วย ควรใช้คำพูดอย่างสุภาพในการถามหาคนนั้น เช่น "May I speak to Rachel Smith, please?" หรือถ้าคุณมีเบอร์ต่อแต่ไม่ทราบชื่อของเจ้าของเบอร์นั้น คุณควรพูดว่า "Could I have extension number 635?" แต่ถ้าโทรเพื่อจุดประสงค์ชัดเจนไม่ได้อยากคุยกับใครเป็นการเจาะจง คุณควรชี้ชัดถึงวัตถุประสงค์ในการโทรของคุณ เช่น"I’m calling to make a reservation."

ถือสายรอหรือโอนสาย

"Please hold"เป็นภาษาทางโทรศัพท์ที่หมายถึง "รอสักครู่" ถ้าคุณจำเป็นต้องถูก transferred (โอนสาย) ไปที่เบอร์ต่ออื่น คุณมักจะได้ยินการบอกกล่าวว่า"Connecting your call..." หรือ "Please hold, I'll transfer you." ถ้าคุณติดต่อทางธุรกิจในช่วงเวลาที่ยุ่งๆ คุณอาจได้ยินเพียงคำบอกสั้นๆ ให้ถือสายรอว่า"Hello, please hold!" ก่อนที่โอปะเรเตอร์จะตัดไปรับสายอื่น

ฝากข้อความ

ถ้าคุณที่คุณอยากพูดสายด้วยไม่สามารถรับสายได้ คุณควรเตรียมฝากข้อความทิ้งเอาไว้ คุณอาจใช้voicemail (บันทึกเสียงฝากข้อความระบบดิจิตอล) หรือ answering machine (เครื่องบันทึกเสียงที่อัดลงบนเทป) ถ้าคุณกำลังพูดอยู่กับโอปะเรเตอร์ คุณอาจถูกถามว่า"Would you like to leave a message?" หรือคุณอาจพูดเองว่า "May I leave a message?" อย่าลืมทิ้งเบอร์คุณไว้ถ้าคุณอยากให้เขาติดต่อกลับ และเบอร์นี้เรียกว่าcall back number

ขอให้อีกฝ่ายพูดช้าลง

ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าคุณจะเข้าใจทุกอย่างที่พูดมาเป็นภาษาอังกฤษ ก็ควรยอมรับความจริงและบอกผู้ที่พูดสายด้วยทันทีว่า"My English isn't very strong, could you please speak slowly?" คนส่วนใหญ่จะเข้าใจและพอใจความตรงไปตรงมาของคุณและพร้อมที่จะทำตามที่คุณขอร้อง

จดประโยคที่จะพูดลงในกระดาษ

ถ้าคุณรู้สึกประหม่ากับการพูดโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษล่ะก็ คุณควรเขียนประโยคที่อยากจะพูดลงในกระดาษไว้ก่อน ลองเขียนคร่าวๆ ว่าคุณต้องพูดว่าอะไรบ้าง คุณสามารถใช้บันทึกนั้นในการเรียบเรียงความคิดของคุณล่วงหน้าหรือใช้เป็นหลักอ้างอิงเมื่อคุณเกิดความสับสนทางความคิดขึ้นมาระหว่างการพูดโทรศัพท์

อย่าลืมรักษามารยาท

สิ่งที่สำคัญในการพูดโทรศัพท์คือการใช้คำและน้ำเสียงที่สุภาพเรียบร้อย เมื่อต้องการขอร้องให้ใครทำอะไรให้ คุณควรใช้คำต่อไปนี้ในประโยคด้วย ไม่ว่าจะเป็น , 'Could you', และ 'Please' แล้วอย่าลืมจบการสนทนาด้วยคำว่า'Thank you' และ 'Goodbye'!

ขอบคุณข้อมูลจาก http://learners.in.th/blog/varn2/186334

PAST SIMPLE TENSE

Past Simple Tense คือ ประโยคที่พูดถึงการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น และสิ้นสุดไปแล้วในอดีต รวมทั้งที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง หรือเกิดขึ้นเป็นประจำในอดีต และที่แสดงความปรารถนา หรือแสดงเงื่อนไขในปัจจุบันที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับ Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous ด้วย ตัวอย่างเช่น


It rained an hour ago. (It isn’t raining now.)
I saw her yesterday.



โครงสร้างประโยค : Subject + Verb 2

การเติม –ed ที่คำกริยา มีหลักเกณฑ์ดังนี้

1. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e อยู่แล้วให้เติม d ได้เลย เช่น

love = loved
move = moved

2. กริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม ed เช่น

cry = cried
carry = carried

3. กริยาที่ลงท้ายด้วย y แต่หน้า y เป็นสระ ให้เติม ed ได้เลย เช่น

play = played
delay = delayed

4. กริยาที่มีเพียงพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายนั้นเข้าไปอีก 1 ตัว ก่อนแล้วจึงเติม ed เช่น

hop = hopped
beg = begged

5. กริยามีเสียง 2 พยางค์แต่ลงเสียงหนักที่พยางค์หลัง และพยางค์หลังนั้นมีตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายด้วยตัวสะกดตัวเดียว ต้องเพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายนั้นเข้าไปอีก 1 ตัวเสียก่อน แล้วจึงเติม ed เช่น

Refer = referred
occur = occurred

ยกเว้น ถ้าลงเสียงหนักในพยางค์แรก ไม่ต้องซ้อนพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ามา

6. นอกจากทุกข้อที่กล่าวมาแล้ว เมื่อต้องการให้เป็นกริยาช่อง 2 ให้เติม ed ได้เลย เช่น

walk = walked
reach = reached

ประโยค Past Simple Tense เชิงคำถามและการตอบ


เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Past Simple Tense ให้มีความหมายเชิงคำถาม ทำได้ด้วยการนำ did มาวางไว้หน้าประโยคและตอบด้วย yes หรือ no ซึ่งมีโครงสร้างของประโยคดังนี้

โครงสร้าง: Did + Subject + Verb 1 (Did + ประธาน + กริยาช่องที่ 1)

ตัวอย่าง:

1. Did he walk to school yesterday? (เมื่อวานนี้เขาเดินมาโรงเรียนใช่หรือไม่)

- Yes, he did. (ใช่ เขาเดินมา) / No, he didn’t. (ไม่เขาไม่ได้เดินมา)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง Subject + did not (didn't) + Verb 1

ตัวอย่าง

1. I didn't walk to school yesterday.

SOME & ANY

Thursday, February 4, 2010

การใช้ some และ any


Some

I’ve got some money.

I’m going to buy some clothes.

These’s some ice in the fridge.

We did some exercises.


ข้อยกเว้น ปกติเราใช้ some ในประโยคคำถามเมื่อเราเสนอสิ่งของให้ผู้อื่น ( would you like…? ) เช่น

A : would you like some coffee ?

B : Yes, please.

หรือเมื่อเราขอสิ่งของ ( Can I have ฯลฯ) เช่น

A : Can I have some soup, please?

B : Yes, Help yourself.

A : Can you lend me some money ?

B : Sure. How much do you need ?

Any

ใช้ในประโยคปฏิเสธ และคำถาม นำหน้าคำนามนับไม่ได้และคำนามนับได้พหูพจน์

I’m not going to buy any clothes.

There isn’t any orange juice in the fridge.

We didn’t do amy exercises.

some และ any ที่ไม่ใช้คำนาม

· I didn’t take any photographs but Ann took some. ( = some photographs )

· You can have some coffee but I don’t want any. ( = any coffee )

· I’ve just made some coffee. Would you like some ? ( = some coffee )

· ‘Where’s your luggage ?’ ‘ I haven’t got any.’ ( = any luggage )

· ‘are there any biscuits ?’ ‘ Yes, there are some in the kitchen.’ ( = some biscuits )

something / somebody ( หรือ someone )

= อะไรบางอย่าง / ใครบางคน

· She said something.

· I saw somebody ( หรือ someone ).

· Would you like something to eat ?

· Quick ! Somebody’s coming.

anything / anybody ( หรือ amgone)

= อะไรเลย หรือ อะไรบ้าง / ใครเลย หรือ ใครบ้าง

· She didn’t say anything.

· I didn’t see anybody ( หรือ angone. )

· Are you doing angthing this evening ?

· Where’s Ann ? Has anybody seen her ?

Reference : http://www.kr.ac.th/ebook/jutarat/b5.htm
 

Copyright © 2009 Grunge Girl Blogger Template Designed by Ipietoon Blogger Template
Girl Vector Copyrighted to Dapino Colada