Past Simple Tense คือ ประโยคที่พูดถึงการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น และสิ้นสุดไปแล้วในอดีต รวมทั้งที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง หรือเกิดขึ้นเป็นประจำในอดีต และที่แสดงความปรารถนา หรือแสดงเงื่อนไขในปัจจุบันที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับ Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous ด้วย ตัวอย่างเช่น
It rained an hour ago. (It isn’t raining now.)
I saw her yesterday.
โครงสร้างประโยค : Subject + Verb 2
การเติม –ed ที่คำกริยา มีหลักเกณฑ์ดังนี้
1. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e อยู่แล้วให้เติม d ได้เลย เช่น
love = loved
move = moved
2. กริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม ed เช่น
cry = cried
carry = carried
3. กริยาที่ลงท้ายด้วย y แต่หน้า y เป็นสระ ให้เติม ed ได้เลย เช่น
play = played
delay = delayed
4. กริยาที่มีเพียงพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายนั้นเข้าไปอีก 1 ตัว ก่อนแล้วจึงเติม ed เช่น
hop = hopped
beg = begged
5. กริยามีเสียง 2 พยางค์แต่ลงเสียงหนักที่พยางค์หลัง และพยางค์หลังนั้นมีตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายด้วยตัวสะกดตัวเดียว ต้องเพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายนั้นเข้าไปอีก 1 ตัวเสียก่อน แล้วจึงเติม ed เช่น
Refer = referred
occur = occurred
ยกเว้น ถ้าลงเสียงหนักในพยางค์แรก ไม่ต้องซ้อนพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ามา
6. นอกจากทุกข้อที่กล่าวมาแล้ว เมื่อต้องการให้เป็นกริยาช่อง 2 ให้เติม ed ได้เลย เช่น
walk = walked
reach = reached
ประโยค Past Simple Tense เชิงคำถามและการตอบ
เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Past Simple Tense ให้มีความหมายเชิงคำถาม ทำได้ด้วยการนำ did มาวางไว้หน้าประโยคและตอบด้วย yes หรือ no ซึ่งมีโครงสร้างของประโยคดังนี้
โครงสร้าง: Did + Subject + Verb 1 (Did + ประธาน + กริยาช่องที่ 1)
ตัวอย่าง:
1. Did he walk to school yesterday? (เมื่อวานนี้เขาเดินมาโรงเรียนใช่หรือไม่)
- Yes, he did. (ใช่ เขาเดินมา) / No, he didn’t. (ไม่เขาไม่ได้เดินมา)
ประโยคปฏิเสธ
โครงสร้าง Subject + did not (didn't) + Verb 1
ตัวอย่าง
1. I didn't walk to school yesterday.
0 comments:
Post a Comment